» ทุนเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย 2018-2019 (2028 Views)

Link ต้นทาง > http://tica.thaigov.net/main/th/travel/94079-ทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ-(CPS)-ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย.html
 
๑. หนังสือกลางแจ้งเวียนทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ปี ๒๐๑๘ - ๒๐๑๙ ถึงหน่วยงานต่าง ๆ
๒. ทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ปี ๒๐๑๘ - ๒๐๑๙
       ๒.๑ วิธีการสมัครทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ปี ๒๐๑๘ - ๒๐๑๙
              ๑)  สมัครก่อนหลักสูตรเริ่ม ๒ เดือน
              ๒)  ผู้สมัครสามารถสมัครได้เพียง  ๑ หลักสูตร
              ๓)  หน่วยงานสามารถเสนอผู้สมัครได้มากกว่า ๑ หลักสูตร ๆ ละไม่เกิน ๑ คน ในกรณีที่หน่วยงานเสนอชื่อผู้สมัครขอรับทุนมากกว่าจำนวนที่ได้กำหนดไว้ข้างต้น กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (กรมความร่วมมือฯ) จะพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเรียงตามลำดับที่ปรากฏในหนังสือเสนอชื่อจากหน่วยงานตามจำนวนที่กำหนดไว้ข้างต้นเท่านั้น บุคคลที่ปรากฏชื่ออยู่ในลำดับหลังซึ่งเกินจำนวนที่กำหนดไว้ กรมความร่วมมือฯไม่อาจพิจารณาให้เป็นผู้สมัครขอรับทุนได้
              ๔)  ได้รับการคัดเลือกจากต้นสังกัดในระดับกระทรวง หรือกรม หรือเทียบเท่าให้เป็นผู้สมัครรับทุน โดยจะต้องมีหนังสือเสนอชื่อไปที่กรมความร่วมมือฯ
        
       ๒.๒ คุณสมบัติของผู้สมัครทุนที่แหล่งทุนกำหนด
              ๑)  มีอายุระหว่าง ๒๕ – ๔๕ ปี
              ๒)  ไม่เคยได้รับทุนรัฐบาลอินเดีย ภายใต้ ITEC Programme และ TCS of Colombo Plan มาก่อน
              ๓) มีผลการทดสอบภาษาอังกฤษชุด DIFA TES หรือ TOEFL IELTS หรืออื่น ๆ อย่างใดอย่างหนึ่งที่เทียบเท่า
  เกณฑ์วัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของ Common European Framework of Reference (CEFR) อย่างน้อยระดับ B1 โดยผลการทดสอบดังกล่าวต้องมีอายุไม่เกิน ๒ ปี นับจากวันที่เข้ารับการทดสอบ
              ๔)  มีคุณสมบัติตามที่หลักสูตรกำหนด ดังปรากฏในรายละเอียดหลักสูตร
 
       ๒.๓ คุณสมบัติของผู้สมัครขอรับทุนที่ฝ่ายไทยกำหนด
              ๒.๓.๑  ก. สำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการ
                               ๒.๓.๑.๑  ผู้สมัครขอรับทุนจะต้องเป็นข้าราชการพลเรือนตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไปหรือเทียบเท่าหรือมีคุณสมบัติอื่น ๆ ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการให้ข้าราชการไปศึกษาฝึกอบรมและดูงาน ณ ต่างประเทศ (กขต.)
                               ๒.๓.๑.๒ จะต้องได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการหรือโอนมาปฏิบัติงานในหน่วยงานที่เสนอชื่อสมัครรับทุนแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัครของกรมความร่วมมือฯ
                          ข. สำหรับพนักงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานเอกชน
                               ๒.๓.๑.๓ จะต้องปฏิบัติงานหรือโอนมาปฏิบัติงานในหน่วยงานที่เสนอชื่อสมัครรับทุนแล้ว ไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัครของกรมความร่วมมือฯ
              ๒.๓.๒  ไม่อยู่ในระหว่างการสมัครขอรับทุนอื่นที่อยู่ในความดูแลของกรมความร่วมมือฯ {ทุนประเภท ๑ (ข)}
              ๒.๓.๓  กรณีเคยได้รับทุนประเภท ๑ (ข) ไปศึกษา ณ ต่างประเทศ จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า ๒ ปี
  (ยกเว้นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาที่เทียบเท่ามหาวิทยาลัย ต้องกลับมาปฏิบัติงาน แล้ว 
  ไม่ต่ำกว่า ๑ ปี) และในกรณีที่เคยได้รับทุนไปฝึกอบรม จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า ๑ ปี และ          
  ในกรณีที่เคยได้รับทุนสัมมนา / ดูงาน ที่มีระยะเวลาเกินกว่า ๑ เดือน จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า   
  ๑ ปี นับถึงวันปิดรับสมัครของหลักสูตรฯ
              ๒.๓.๔  กรณีเคยได้รับทุนประเภท ๑ (ข) เพื่อศึกษาในประเทศ จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า ๑ ปี (ยกเว้นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาที่เทียบเท่ามหาวิทยาลัย ต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า ๖ เดือน) และในกรณีที่เคยได้รับทุนไปฝึกอบรม และสัมมนาหรือดูงาน จะต้องกลับมาปฏิบัติงานแล้วไม่ต่ำกว่า ๖ เดือนและ ๓ เดือนตามลำดับ นับถึงวันปิดรับสมัครของกรมความร่วมมือฯ
              ๒.๓.๕  กรณีเคยสละสิทธิ์การสมัครรับทุนที่ดำเนินการผ่านกรมความร่วมมือฯ จะต้องสละสิทธิ์มาแล้วไม่ต่ำกว่า ๑ ปี นับแต่วันที่ที่ยินยอมให้สละสิทธิ์ถึงวันปิดรับสมัครของกรมความร่วมมือฯ
              ๒.๓.๖   กรณีที่เคยได้รับทุนและได้ยุติการรับทุนก่อนที่จะสำเร็จหลักสูตร โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตจากกรมความร่วมมือฯและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะไม่มีสิทธิ์สมัครรับทุนใด ๆ เป็นเวลา ๒ ปี นับแต่วันที่ผู้รับทุนได้ยุติการรับทุน ถึงวันปิดรับสมัครของกรมความร่วมมือฯ และในกรณีที่แหล่งทุนแจ้งยุติการให้ทุนศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน/สัมมนา หรือปฏิบัติการวิจัย จะไม่มีสิทธิสมัครรับทุนใด ๆ เป็นเวลา ๕ ปี นับจากวันที่กรมความร่วมมือฯแจ้งหน่วยงานที่ผู้รับทุนสังกัด
              ๒.๓.๗  กรณีที่แหล่งผู้ให้ทุนกำหนดระดับของผู้สมัครรับทุนไว้ ให้ถือเกณฑ์เปรียบเทียบระดับ ดังนี้
                              - ระดับต้น (Junior Level)              เทียบเท่าข้าราชการระดับปฏิบัติการ
                              - ระดับกลาง (Middle Level)          เทียบเท่าข้าราชการระดับชำนาญการ
                              - ระดับอาวุโส (Senior Level)         เทียบเท่าข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษ
                              - ระดับบริหาร (Executive Level)   เทียบเท่าข้าราชการระดับเชี่ยวชาญ
        
       ๒.๔ ขั้นตอนการสมัครทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย
                   ๑. ดูรายละเอียดหลักสูตรทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย ปี 2018 – 2019 พร้อมทั้งสมัครออนไลน์ที่ www.itecgoi.in โดยเลือก CP Secretariat เป็นช่องทางในการสมัครทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย
                   ๒. จัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สมัครรับทุน (แบบพิมพ์ทุน ๑)
                   ๓. จัดทำ Medical Report ตามโรงพยาบาลที่รัฐบาลอินเดียกำหน
                   ๔. นำส่งหนังสือเสนอชื่อให้เข้าสมัครรับทุนจากต้นสังกัดฉบับจริงพร้อมทั้งเอกสารต่าง ๆ ให้กับกรมความร่วมมือฯ ดังนี้
                             ๔.๑  รายละเอียดเกี่ยวกับผู้สมัครรับทุน จำนวน ๑ ชุด
                             ๔.๒ ใบสมัครออนไลน์  จำนวน ๒ ชุด
                             ๔.๓  Medical Report   จำนวน ๒ ชุด
                             ๔.๔  ผลการทดสอบภาษาอังกฤษ  จำนวน ๒ ชุด
 
                   ๕. สแกนเอกสารทั้งหมดในข้อ ๔ ส่งไปที่ pichetk@mfa.go.th
                   ๖.  เจ้าหน้าที่รับผิดชอบทุนสำนักเลขาธิการแผนโคลัมโบ (CPS) ร่วมกับรัฐบาลอินเดีย คือ นายพิเชษฐ เข็มทอง  
  โทรศัพท์ ๐ ๒๒๐๓ ๕๐๐๐ ต่อ ๔๓๑๐๒ หรือ ๐๙ ๘๒๖๒ ๙๗๙๗ และ/หรือโทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๓๒๕        
       
       ๒.๕ หลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัครขอรับทุน
                   จำนวนผู้สมัครที่จะได้รับการเสนอชื่อให้แหล่งทุนพิจารณาในขั้นสุดท้าย มีจำนวนไม่เกินหลักสูตรละ ๒ ราย  
 
       ๒.๖ ผลการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครเข้ารับทุนในขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแหล่งผู้ให้ทุน

Poster : สาขิน ขาวไชยมหา [Mr. Sakhin Khaochaimaha] | 8 ตุลาคม 61